45% เห็นด้วย
ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาผลกระทบโครงการอีอีซี
Eastern Economic Corridor (EEC) หรือ โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาล คสช.2 ซึ่งสานต่อมาจากแผนเศรษฐกิจเดิมที่ดำเนินมาตั้งแต่ยุคแรกที่ คสช.1 โดยมี 'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์' เป็นผู้ผลักดันคนสำคัญ ภาพในฝันของการดำเนินโครงการแบบ EEC คือ การพัฒนาพื้นที่ทางเศรษฐกิจเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ในสามจังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ผลกระทบที่ชัดเจนที่สุด ของโครงการอีอีซี คือ การพุ่งขึ้นของราคาที่ดินและการค้าที่ดิน ทำให้เกษตรกรที่เคยเช่าที่ดินทำการเกษตรและการประมงมายาวนาน ต้องถูกยกเลิกสัญญาเช่าโดยทันทีเมื่อเจ้าของที่ดินขายที่ดินให้กับนักลงทุน และผลกระทบที่จะตามมาอย่างที่สอง คือ ผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรถึงสามพรรคการเมืองได้แก่ อนาคตใหม่ ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญตรวจสอบผลกระทบโครงการอีอีซี โดยใช้ชื่อและวัตถุประสงค์การทำงานต่างกันไป หลังจากญัตตินี้ถูกเลื่อนพิจารณาหลายครั้ง เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2562 ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญด้วยเสียง 231 ต่อ 223 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง จากผู้เข้าประชุม 456 คน
โดยเฉลี่ย
เห็นด้วย 223 ไม่เห็นด้วย 231 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 4013.9.2019
83% เห็นด้วย
ขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนและรถไฟฟ้าบีทีเอส
วันที่ 5 กันยายน 2562 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอตามรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่เห็นควรให้ขยายสัมปทานทางด่วน เพื่อยุติข้อพิพาทระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้าจำกัด (มหาชน) (BEM) และไม่ขยายสัมปทานการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวของบีทีเอส ที่จะสิ้นสุดในปี 2572 ด้วยคะแนน 412 ต่อ 25 งดออกเสียง 20 คะแนน ซึ่งเมื่อผ่านการลงมติจากสภาผู้แทนราษฎรแล้วก็จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้นำไปปฏิบัติต่อไป
โดยเฉลี่ย
เห็นด้วย 412 ไม่เห็นด้วย 24 งดออกเสียง 20 ไม่ลงคะแนน 425.9.2019
20% เห็นด้วย
ตั้งคณะกรรมาธิการผู้มีความหลากหลายทางเพศ
วันที่ 22 สิงหาคม 2562 การประชุมของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุม ในประเด็นเรื่องคณะกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในร่างที่เสนอมามี 35 คณะ แต่ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ เสนอขอเพิ่มเป็น 36 คณะ โดยเสนอให้มีคณะกรรมาธิการผู้มีความหลากหลายทางเพศ แยกออกมาจากต่างหากจากคณะกรรมาธิการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งผลปรากฏว่า ที่ประชุมไม่เห็นชอบกับคำแปรญัตติของ น.ส.ณธีภัสร์ ด้วยคะแนน 365 ต่อ 101 และงดออกเสียง 13 ส่งผลให้กรรมาธิการสามัญ จะมีจำนวน 35 คณะตามร่างเดิม
โดยเฉลี่ย
เห็นด้วย 100 ไม่เห็นด้วย 365 งดออกเสียง 13 ไม่ลงคะแนน 2022.8.2019